จากนักเรียน กศน. เป็นว่าที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ในปีการศึกษา 2561

จบจากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

และเป็นว่าที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ในปีการศึกษา 2561น้องป้อน สมประสงค์ มะลิพันธ์ ปัจจุบันอายุ 22 ปี

บทความจาก Dek-D

สวัสดีค่ะ "ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ" ประโยคนี้ไม่ผิดแน่ๆค่ะ สำหรับ น้องป้อน ที่มั่นคงและชัดเจนกับความฝันของตัวเองจนสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง จุฬาฯ ใน TCAS รอบ 4 ปี 61 ได้สำเร็จ วันนี้ พี่ไอซ์ จะพาทุกคนมารู้จักกับน้องป้อนให้มากขึ้นกันค่ะ

สังคมในโรงเรียนทำให้ผมไม่อยากไปเรียน

         สังคมและความทรงจำแย่ๆในโรงเรียน ทั้งโดนเพื่อนแกล้งโดยครูก็ไม่ช่วยอะไรเลย ทำให้ผมรู้สึกไม่อยากที่จะไปโรงเรียนจนเป็นเหตุให้ติด มส ในช่วง ม.3 จึงไม่สามารถสมัครเรียนต่อ ม.4 ในสายสามัญได้ทัน ทำให้ป้อนต้องหยุดเรียนไปนานถึง 3 ปี ก่อนจะพบความฝันของตัวเองและตัดสินใจกลับมาเรียนต่อที่ กศน.

คนรอบข้างคือแรงผลักดันที่ทำให้แพ้ไม่ได้

3 ปีที่ไม่ได้เรียน ผมเห็นทุกคนเดินไปข้างหน้า เพื่อนๆ พี่ๆ ที่โตมาด้วยกันกำลังเข้ามหา'ลัย และที่สำคัญที่สุดเลยคือ แม่ ผมไม่อยากให้ใครมาว่าแม่ ว่ามีลูกไร้การศึกษา ตามใจลูกจนเรียนไม่จบ นั่นทำให้ผมเริ่มกลับมามองตัวเองและบอกตัวเองว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างกับอนาคตตัวเองได้แล้ว

สุขภาพมีค่ากว่าเงิน นั่นคือเหตุผลผมเลยเลือกเรียนวิทย์กีฬา

 3 ปีที่เคว้งคว้างและไร้จุดหมาย การได้เห็นลุงที่มาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะทำให้ผมคิดอะไรบางอย่างได้ "ผมคิดนะว่าลุงอายุตั้ง 60-70 แล้วทำไมยังแข็งแรงอยู่เลย" นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วสุขภาพมันสำคัญกว่าเงินทองซะอีก ถึงจะทำงานหนักมีเงินมากมายแต่ถ้าสุดท้ายต้องเอาไปเป็นค่ารักษาตัวเองตอนแก่หมด มันก็ไม่มีประโยชน์ เลยเลือกที่จะเรียนด้านนี้เพื่อจะได้ใช้ดูแลตัวเองและครอบครัว

กลับมาเริ่มต้นใหม่หมด

หลังจากตัดสินใจกลับมาเรียนต่อ ป้อนต้องใช้วุฒิ ป.6 ในการสมัครเรียนต่อ กศน. ทำให้ต้องเริ่มเรียนชั้นมัธยมใหม่ทั้งหมด โดยใช้เวลาเรียนหลักสูตร ม.ต้น 2 ปี และ ม.ปลาย 2 ปี กศน. ให้อะไรผมมากกว่าวิชาการ สำหรับผมด้านวิชาการของ กศน. อาจจะสู้กับโรงเรียนระบบสามัญไม่ได้ แต่ที่ กศน. ทำให้ผมได้เรียนรู้มากกว่านั้น ทั้งการใช้ชีวิต ประสบการณ์นอกห้องเรียน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ป้อนได้อาจารย์ที่ดีและเพื่อนร่วมชั้นที่ดี ซึ่งทำให้ผมมีความสุขที่จะกลับมาเรียนอีกครั้ง

ผมไม่เคยเรียนพิเศษ

ผมเรียน กศน. ซึ่งจะเรียนแค่อาทิตย์ละ 1 วัน ทำให้ผมมีเวลาค่อนข้างเหลือเฟือเลยอาจจะไม่ได้แบ่งเวลาอ่านหนังสือชัดเจนอะไรขนาดนั้นอีกอย่างผมเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือเยอะๆ หลักๆ ก็คือเรียนจากในเน็ตเนี่ยแหละไม่ได้ไปลงคอร์สเรียนพิเศษอะไร อาศัยดูไปเรื่อยๆครับ นอกจากนี้ยังมี Dek-D PreEntrance 4.0 ที่ผมเคยไปลองสอบเมื่อปีที่แล้ว ถึงแม้คะแนนจะไม่ดีเท่าไหร่แต่นั่นทำให้น้องได้เห็นข้อผิดพลาด และเอาปรับปรุงในการสอบจริงได้เยอะเลย

ตั้งใจเข้าวิทย์กีฬาเท่านั้น

ตอนสมัคร TCAS รอบ 4 ผมเลือกไปแค่ 3 อันดับ แต่เป็นสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาทั้งหมด คือ

• อันดับ 1.วิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ
• อันดับ 2.สหเวชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย ธรรมศาสตร์
• อันดับ 3.วิทยาศาสตร์การกีฬา ศิลปากร

หลักๆ ผมเลือกที่อยู่ในกรุงเทพกับปริมณฑลเป็นหลักด้วย เพราะอยากช่วยที่บ้านประหยัดค่าใช้จ่าย

คะแนนติดลบ 1000 แต่สอบติด

จากการเปรียบเทียบคะแนนของป้อนและคะแนนต่ำสุดของคณะที่ป้อนเลือก ช่วงปี 2557-2560 คะแนนป้อนติดลบมากกว่า 1000 ทุกช่อง แต่อย่างที่เห็นว่าโชคเข้าข้างความพยายามของป้อนจริงๆ 

ลองแล้วพลาดดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

สิ่งที่ป้อนอยากจะฝากถึงน้องๆรุ่นต่อไป คือ อยากให้น้องหาตัวเองให้เจอ แล้วให้มุ่งมั่นและศรัทธาในเป้าหมายของตัวเอง อย่าไขว้เขวต่อสิ่งรอบข้าง เพราะการได้ลอง ถึงมันจะไม่ได้ก็ถือว่าเราได้พยายามแล้ว ดีกว่าการยอมแพ้โดยที่ยังได้ลองทำอะไรเลย อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังที่ทิ้งความฝันตัวเองไปง่ายๆแบบนั้น และอีกอย่างวันประกาศผลแอดอย่าลืมใส่เสื้อผ้าสีมงคลนะครับ 5555

น้องป้อน เป็นอีกคนที่ทำให้เราได้เห็นว่า ผลลัพธ์ของความพยายามคือความสำเร็จ  น้องอาจไม่ได้เป็นไอดอลในด้านการเรียน แต่ในเรื่องของความตั้งใจพี่เชื่อว่าน้องมีไม่แพ้ใครเลย สุดท้ายนี้ ขอให้ป้อนใช้ชีวิตมหา'ลัยอย่างมีความสุขนะคะ

Cr : https://www.dek-d.com/tcas/50204/