HOTLINE
การสอนลูกให้เรียนเก่ง ทำอย่างไร
"เด็กเก่งไม่ใช่เก่งจนเป็นพรสวรรค์สำหรับเด็กบางคน แต่หมายถึงการที่เด็กพวกนี้สามารถปรับตัวและพร้อมที่เรียนรู้และคิดแบบผู้ใหญ่โดยมีคนช่วยสอนเขาคิด วางระบบการคิด และเรียนรู้โดยที่เขาไม่รู้ตัว แค่นี้ก็เป็นเด็กเก่งกว่าเด็กในวัยเดียวกันแล้ว "คุณพ่อหมงเกริ่นให้ฟังก่อนจะเข้าเรื่องการสอนลูกชาย
ผมแนะนำวิธีคิดง่ายๆ มีเด็กทำงานที่มอบหมาย 2กลุ่ม โดยงานที่เราให้เขาทำต้องทำให้จบภายใน 30 นาที ไม่กำหนดวิธีทำเอาแค่งานที่ได้แต่ให้ทำแบบเดิมหลายครั้ง
- เด็กกลุ่มแรก เขาจะทำงานแบบหาวิธีหลายๆแบบทำแล้วงานมักจะเสร็จรวดเร็วมาก มีเวลา ดังนี้ 21 / 24 /22 /19 /20 นาที
- เด็กกลุ่มสอง เขาทำงานแบบเดิมไม่เปลี่ยนวิธีการเท่าไร งานมักจะเสร็จส่งทัน มีเวลา 26 /28 /28 /27 /26 นาที
ถ้าเราจะมองหาคนเก่ง ตัวเราจะถามว่า เด็กกลุ่มแรก เก่งมาก ใช้เวลาน้อยมาก เร็วสุด 19 นาทีเอง เรานับถือเขาเลย แสดงว่าเรายกย่องค้นหาแต่เด็กเก่งที่มีพรสรรค์
ส่วนกลุ่มที่ สอง เราน่าจะยกย่องเขานะครับ เขาทำได้ตามที่เราบอก ทุกครั้ง ไม่เปลี่ยนวิธีคิดเท่าไร ถ้าเราคิดใหม่แล้วสอนอะไรชี้แนะพวกเขา แล้วเขาทำได้ เหลือ 24 /23
ลองคิดดูซิครับว่า เด็กกลู่มที่สองน่าสนใจไหมครับ เขาเป็นเด็กเก่งได้ คิดเป็น ทำงานตามระบบ แสดงว่าเริ่มเป็นผู้ใหญ่มากข้น มีกรอบการคิด แต่เด็กเก่งกลุ่มแรกถ้าเราสอนเขา แล้วเขาทำได้เท่าเดิมหรือไม่ดีกว่าเดิม เขาจะมองแต่วิธีคิดของตนเองไม่เปลี่ยนแน่นอน เพราะเขาทำเสร็จแค่ 19 - 20นาทีเอง
สิ่งที่ผมสอนก็คือไม่ต้องบอกตัวเองว่าเป็นเด็กเก่ง แต่ให้ตั้งใจเรียนรู้ว่าเขาคิดกันอย่างไร อดทนเรียนรู้ กำหนดการเรียนเป็นเวลา พยายามทำให้ดีที่สุด และยอมรับที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิด แค่นี้เด็กๆเหล่านี้ก็เป็นเด็กเก่งได้ ไม่น้อยหน้าเด็กเก่งแบบมีพรสวรรค์ เพราะถ้าเขาเจองานแบบนี้ซ้ำมากๆ เขาจะมีโอกาสทำได้เร็วมากขึ้นจนอาจจะเร็วจนสามารถทำไล่ทันเด็กเก่งพรสวรรค์ได้เลย
ทุกวันนี้ผมสอนลูกผมเรียนแบบนี้วันละหลายวิชา วิชาละ 10นาที 1ชั่วโมงเรียนได้เท่าไรเอาเท่านั้น ส่วนวิชาที่จะไปสอบแข่งขันวันละ 15-30 นาที่ วันหยุด 1ชั่วโมง เนื้อหาสอนให้เข้าใจต่อไปสอนสรุป
แล้วถามหาส่วนที่หายไปให้เขาตอบคำถามเราแบบไม่มีตัวเลือกคำตอบแล้วให้ทำแบบฝึกหัดไล่ตามบท แล้วทำแบบสอบแข่งขัน จำนวนข้อเท่ากัน ปกติให้ 2ชั่วโมง ก็บีบเวลาให้เหลือ 1.30 ชั่วโมง ทดสอบเร็ว แม่น รีบตัดสินใจ ทำไม่ได้ก็ต้องมีหลักการคิดเพื่อเลือกคำตอบที่ดีที่สุด ผมสอนลูกแค่นี้เองครับ
รูปแบบการสอนของผมที่ฝึกฝนลูกชาย
การสอนหนังสือเรียน ตั้งแต่ ป1 - ป5ลูกชาย เรียน ที่โรงเรียน อัสสัมชัญสมุทรปราการ
รูปแบบการสอน แบ่งเป็น 2กลุ่ม
การสอน แบบไล่การเรียนตามชั้นเรียนแต่ละปี เพื่อให้ ทำผลการเรียนออกมาดีในห้องเรียน พ่อแม่จะได้สบายใจ ต้องมีเอกสารของโรงเรียนมาให้ดูประกอบการเรียนเพื่อให้การสอนไล่ประกบการสอนของโรงเรียนได้
การสอน แบบเน้นสอบแข่งขัน วิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กก้าวไปสู่การแข่งขัน ในโลกการเรียนที่ก้วางกว่าโรงเรียน และกล้าที่จะเรียนรู้ในสนามแข่งขัน
เด็กที่เรียน สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่ปานกลาง เป็นต้นไป แต่เด็กที่เรียน ต้องมีความตั้งใจ ขยัน อดทน ผลที่เด็กและพ่อแม่จะได้คือ เด็กจะมีระเบียบวินัยและรู้ว่าต้องทำอะไรเมื่อไหร
วิธีการสอนให้กับลูกของผมเอง
ตั้งแต่ ป1 -ป5ทุกวัน หลังกลับบ้าน ทานอาหารอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
เริ่มเรียน 19.30 ทำการบ้านของโรงเรียน 30-40 นาที
เริ่มอ่านหนังสือ ทบทวนที่เรียน ตามหนังสือของโรงเรียน
หรือชีตของโรงเรียน ช่วง 2ทุ่ม - 3 ทุ่ม โดยแบ่งการอ่านเป็น 5-6 วิชาต่อวัน แต่ให้อ่านหริอทบทวนวิชาละ 1-2 หน้า หรือทำแบบฝึกหัด สลับกันไปมาให้ครบทุกวิชาที่เรียน แต่เน้นในวิชา
เลข - เลขที่เป็นอ้งกฤษ สอนสลับกันทุกวัน
วิทย - วิทยที่เป็นอังกฤษ สอนสลับกันทุกวัน
อังกฤษ - สังคมที่เป็นอังกฤษ สอนสลับกันทุกวัน
ไทย -วิชาที่เหลือ สอนสลับกันทุกวัน
อ่านแล้วแปลในหนังสือที่เป็นอังกฤษให้เราฟัง
ภาษาจีนเราไม่รู้แต่ให้เขาจดคำอ่านมาเป็นภาษาไทย
แล้วให้เขาอ่านให้ฟังหรือเขียนให้ดูเวลาเรียน ผมสอนแบบนี้ จ- ฟฤหัส .ให้เขาเรียนพอ 3 ทุ่ม-3ทุ่ม30 ให้เรียนเน้นวิทยาศาสตร์ และทำแบบฝ฿กหัดไปด้วยกัน 30นาที พอ แต่สอนตามหนังสือวิทยที่มีการพิมพ์ขายเกือบทุกเล่ม ยิ่งเขาเรียนไปแล้วเวลาเจอบทเรียนที่ซ้ำอีกก็สอนเขาแบบสรุปแต่จะหยุดให้เขาอธิบายส่วนที่หายไปในรายละเอียดเพื่อTest ความเข้าใจ แล้ทำแบบฝึกหัดประกบไป 3-8 ข้อต่อวัน
จบ 3ทุ่ม30 ก็ปล่อยเขาเล่นเกม 30 นาที แล้วไล่ไปนอน ตอน 4ทุ่ม
วันศุกร์ ไม่มีการเรียน นอกจากทำการบ้านที่เขามีอย่างเดียวแล้วปล่อยเล่น
เสาร - อาทิตย์ เรียน 3 ชั่วโมง แบ่งการเรียนเป็นเรียนตามโครงสร้างโรงเรียน 1 ชั่วโมงอ่านหนังสือวิทย 1 ชั่วโมง ทำแบบทดสอบวิทย์ 1ชั่วโมง 50 -60 ข้อหรือทำไป แล้วแบ่งเวลามาตรวจเฉลยกันก่อนสอบแข่งขัน 15 วัน ถ้ามีช่วงเวลา จับทำแบบฝึกหัด ชัวโมงต้องได้ 120 ข้อ แล้วค่อยมาตรวจเฉลยกัน ต้องทำให้ได้ถูกต้อง 70-80 % ต่อ 100 ข้อ และต้องผ่านการทดสอบ 1000 -1200 ข้อ โดยผมจะดู ความเร็วในการทำ ความแม่นยำและการสอบถามว่าเห็นอะไรบ้างในข้อสอบที่ทำๆไปมีความใกล้ๆกันไหมถามกลับไปกลับมาหรือวนอยู่ในแนวเดิมมีไหม ถ้าเริ่มมองออกก็แสดงว่า ผ่านพร้อมที่จะไปแข่งขันแล้วมีผลงานแน่นอนเช่นสพฐ รอบแรก
หนังสือ
วิทย์ทีใช้สอน ป4 ต้องใช้ ป5 ป6 สอนป5 ต้องใช้ ป6 ม1-ม3 สอน เอาบางส่วน
ป6 ต้องใช้ ป6 สอบแข่ง ม1-ม 3 ลงรายละเอียด มากขึ้นอีก
หนังสือหาซื้อจากร้านหนังสือที่วางขายแต่มีหลายเล่มไม่ใช่เล่มเดียว ผมใช้สอนลูกผม มีเกือบ 15 เล่ม
การแข่งระดับ สสวท
รอบแรกตัดเหลือ 1100 คนก่อนไปรอบสอบแล้วตัดเหลือ 100 คน ๔อเป็นการแข่งขันระดับประเทศ
การแข่งระดับ สพฐ
รอบแรกตัด 30 % ก่อน สอบ สองตัดที่1000 คน
คนที่ได้ระดับ เหรียญ ทอง จะตัดที่ 100 -150 คน แล้วไปต่อรอบต่อไป
" การที่จะเป็นคนเก่ง 100- 150คนแรก ต้องเรียนหนักมากดังนั้นการสอนไม่อยากให้เด็กๆต้องเสียวัยเด็กไป เอาแค่เด็กๆได้รับความรู้ แข่งขันพอมีผลงาน มีผลการเรียนที่ดีในห้อง สนุกสนาน เล่นเกมพ่อแม่ สบายใจ ผมว่า เขาคงชอบ แต่ต้องการ เป็น 1000 คนแรก ในสนามแข่งระดับประเทศ เด็กและ พ่อแม่ต้องทุ่มเวลาอย่างหนัก นะครับ "
ผลการเรียน ของลูกชาย
- ป1 -ป5 เกรด 4.0
- ป3 สสวท เหรียญ ทองแดง
- ป4 สพฐ รอบแรก เหรียญ ทอง
- ป5 สพฐ รอบแรก เหรียญ ทอง รอบสอง เหรียญ เงิน
- ป6 ปีนี้ วางแผนว่า จะเอาเวลาไปเตรียม งานเรียน ม1 -ม3
เพราะ การแข่งในตอน ม 1 ต้องเจอพวก ม2- ม3และต้องมีการคำนวณมากขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องสอนการคำนวณเริ่มตั้งแต่ ป6 ไปก่อนจะได้สะสมความพร้อม ไว้รอแข่ง ตอน นั้น ดังนั้น ป6 เรียนไปก่อนไม่เน้นการแข่ง เพราะจะได้มีเวลาและเด็กจะได้ไม่เบื่อมีเวลาเล่นพอลงแข่งเขาก็จะยอมสู้และมีความพร้อม ครับ
ครูหมง คุณพ่อติวเตอร์ |
Total Rating ✔
9.2 stars – 2,789 reviews
More Reviews
อ่านรีวิว ทั้งหมดคลิก