การสอบ TOEIC - TOEFL - IELTS
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้กันทั่วๆไปก็คือการสอบทั้ง 3 แบบนี้ ซึ่งทุกคนสามารถสมัครสอบได้ แต่จะสอบแบบไหน จำเป็นต้องรู้ว่า คะแนนของการสอบแต่ละแบบนั้นนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง และความยากง่ายของการสอบแต่ละแบบนั้นเป็นอย่างไร ก่อนจะไปทำความรู้จักการสอบทั้ง 3 แบบอย่างละเอียดเรามาเปรียบเทียบเบื้องต้นของการสอบทั้ง 3 แบบนี้กัน
TOEIC
- ใช้สำหรับการยื่นสมัครงาน
- เป็นการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ง่ายที่สุดใน 3 แบบนี้
TOEFL
- ใช้สำหรับการยื่นเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ ในระบบอเมริกา
- Part Speaking และ Writing ของการสอบ TOEFL ยากที่สุด
IELTS
- ใช้สำหรับการยื่นเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ ในระบบอังกฤษ
- Part Reading และ Listening ของการสอบ IELTS ยากที่สุด
ทีนี้มาทำความรู้จักการสอบทั้ง 3 แบบนีอย่างละเอียดกันครับ
TOEIC ( Test of English for International Communicatio )
เป็นการวัดภาษาอังกฤษเชิงการสื่อสาร คะแนน TOEIC มีไว้สำหรับการสมัครงาน เพื่อเป็นการรับรองว่าเราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้การสอบ TOEIC มี 2parts คือ
- Listening
- Reading
ข้อสอบจะเป็นแบบ Multiple Choice ทั้งหมด (ง่ายกว่าการสอบ TOEFL มาก)ผลTOEICเอาไว้ใช้สมัครงาน สายการบิน โรงแรม และบริษัทระดับนานาชาติต่างๆที่การทำงานของตำแหน่งนั้นๆจำเป็นต้องใช้หรือสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเช่น
ปตท ,การบินไทย , Chevron
คะแนนTOEIC ทั้ง 2 Parts มีดังนี้
Listening เต็ม 495 Reading เต็ม 495. Total = 990 มาตรฐานการสมัคงานทั่วไปอยู่ที่ 600 - 650 คะแนนค่าสอบ
สำหรับประเทศไทยอยู่ที่ 1,200 บาทสนใจติดต่อที่ศูนย์สอบกรุงเทพ ตึก BB Tower ถนนอโศก โทร02 260 7061
TOEFL ( The Test of English as a Foreign Language )
เป็นของอเมริกา ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English) ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่าเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการมากน้อยแค่ไหนจุดประสงค์คือสำหรับเรียนต่อต่างประเทศ สามารถนำคะแนนสอบใช้ยื่นเข้าเรียนต่อปริญญาโท และ ปริญญาเอกคณะที่เป็นหลักสูตร International ในประเทศได้
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะ Require คะแนนขั้นต่ำที่
- 79/120
- หรือ550/677
ข้อสอบTOEFL มี 4 Parts
- Reading
- Listening
- Speaking
- Writing
คะแนนสอบ TOEFL ถือว่าเป็นมาตรฐานในการเรียนต่อในต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา การสอบในปัจจุบันเรียกว่า Internet-Based Test (TOEFL IBT)
ศูนย์สอบ TOEFL กระจายอยู่ในแต่ละประเทศ
ค่าสอบ
สำหรับศูนย์สอบในประเทศไทยคือ 160 USDส่วนคะแนนเต็มของการสอบแบบ IBT คือ
- 120 คะแนน
- เทียบกับรุ่นเก่าPaper Baseเต็ม677
Part ละ 30 คะแนน คะแนนขั้นต่ำที่พอจะยอมรับได้สำหรับเรียนต่อในระดับปริญญาโทในต่างประเทศคือ 80 (หรือเทียบเท่า 550 ในแบบเดิม -Paper-Based Test)
หากจะเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง ต้องให้ได้ 100 ขึ้นไป
ดังนั้นถ้าใครคิดเรียนต่อใน อเมริกา ก็ต้องเตรียมตัวสอบ TOEFL ได้เลย
การสมัครสอบ TOEFL
ต้องสมัครออนไลน์ ที่ https://www.ets.org/toefl/ตารางเปรียบเทียบคะแนนจากการสอบ TOEIC - TOEFL _ IELTS |
IELTS ( International English Language Testing System )
เป็นการสอบในระบบอังกฤษ เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษเชิงวิชาการเช่นกัน ถ้าคิดไปเรียนต่อทางอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็จะต้องใช้คะแนน IELTSการสอบ IELTS ใช้ ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบ 4 ทักษะ คือ
- การฟัง
- การอ่าน
- การเขียน
- การพูด
IELTS เป็นข้อสอบที่ร่วมมือกันของ 3 สถาบันคือ
- The University of Cambridge ESOL Examinations (Cambridge ESOL)
- บริติช เคานซิล
- และIDP : IELTS Australia
ซึ่งการสอบ IELTS ถือได้ว่าเป็นตัวสอบที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐาน ระดับนานาชาติสูงสุด
IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- Academic สำหรับผู้ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาหรือสูงกว่าในทุกสาขา
- General Training สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา หลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรฝึกอบรมต่าง ๆ
แต่บางสถาบันต้องการให้ผู้สมัครเรียนสอบ Academic Module อันเนื่องมาจากมีความยากง่ายของสาขา ซึ่งผู้สมัครสามารถสอบถามโดยตรงกับสถาบันนั้น หรือเจ้าหน้าที่แนะแนว หรือสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะย้ายถิ่นฐานไปออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์
ค่าสอบอยู่ที่ 6,300 บาท
การสมัครสอบ
สมัครได้ที่ British Council ในประเทศไทยคะแนนสอบ IELTS
คะแนนจะแบ่งเป็นระดับ 1-9 คะแนนขั้นต่ำก็ไม่ควรต่ำกว่า 6.5 มหาวิทยาลัยดังๆก็อาจกำหนดเป็นระดับ 7-8หาดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.britishcouncil.org/th/thailand-exams-ielts.htm
Total Rating ✔
9.2 stars – 2,789 reviews
More Reviews
อ่านรีวิว ทั้งหมดคลิก
แสดงความคิดเห็น
มาทำความรู้จัก TOEIC - TOEFL - IELTS จะเรียนต่อหรือจะสมัครงาน ต้องสอบแบบไหน?
บทความจาก TutorFerry, เรียนต่อต่างประเทศ, TOEIC-TOEFL-IELTS