สำรวจ
แนะนำ
สอบเข้า
ออนไลน์

ครูสอนพิเศษ คุณภาพอันดับ1

หาครูสอนพิเศษตัวต่อตัว คลิกเลย

ค้นหาด้วยเสียง
ค้นหาด้วยเสียงคลิกที่นี่

» » เรียนคณิตศาสตร์ในห้องเรียนไม่เข้าใจ ทำอย่างไรดี ?

15 สิงหาคม 2558

เรียนคณิตศาสตร์ในห้องเรียนไม่เข้าใจ ทำอย่างไรดี ?

สอนพิเศษที่บ้าน เรียนพิเศษตัวต่อตัวที่บ้านกับติวเตอร์คุณภาพ รับประกันผลและความพอใจ เรียนก่อนจ่ายทีหลัง สะดวกปลอดภัย

มีนักเรียนมากมายที่เรียนคณิตศาสตร์ในชั้นเรียนไม่รู้เรื่องเลย 

ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นประถม ชั้นมัธยมต้น หรือชั้นมัธยมปลาย ต่างก็เจอปัญหาแบบนี้ได้ทั้งนั้น บางคนอาจจะเรียนใช้ได้หรือเรียกว่าเรียนเก่งเลยก็ได้ก่อนหน้านั้น แต่พอผ่านไปๆ กลับกลายเป็นเด็กที่เรียนคณิตศาสตร์ไม่ทันเพื่อนไปซะอย่างนั้น

ต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ลำดับความรู้แบบต่อเนื่องทุกเรื่องที่เรียนในระดับชั้นประถมไม่ว่าจะเป็น

  • เรื่องสมการ
  • เรื่องจำนวนนับ จำนวนเฉพาะ
  • เรื่องการหาตัวประกอบ การแยกตัวประกอบ
  • เรื่องการหา หรม. หรือ ครน.
  • เรื่องการหาพื้นที่และการหาปริมาตร


หรือเรื่องพื้นฐานแบบ เลขเศษส่วน เลขทศนิยมและเปอร์เซนต์ ล้วนเป็นพื้นฐานในการเรียนคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมต้นทั้งสิ้น และก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ที่เนื้อหาที่เรียนในชั้นมัธยมต้น เช่น

  • เรื่องจำนวนจริง 
  • พหุนาม 
  • สมการเชิงเส้น
  • ปีทาโกรัส 
  • เรื่องพาราโบลา
  • เรื่องสถิติและความน่าจะเป็น 

ทุกเรื่องเป็นพื้นฐานในการเรียนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมปลายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แคลคูลัส ตรีโกณมิติ จำนวนเชิงซ้อนหรือ ลำดับและอนุกรม

ทีนี้พอนักเรียนคนไหนเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่เข้าใจในระดับชั้นประถมเลยทำให้เรียนคณิตศาสตร์ตอน ม.ต้นไม่เข้าใจ แล้วจะไปเรียนในระดับ ม.ปลายเข้าใจได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น

เรื่องแคลคูลัส ต้องมีพื้นฐานเรื่องต่างๆหลายเรื่องเลย เช่น

  • เซต
  • จำนวนจริง
  • จำนวนเชิงซ้อน
  • ตรีโกณมิติ
  • ฟังก์ชันตรีโกณมิติและอินเวิร์สของฟังก์ชัน
  • เอกลักษณ์ตรีโกณมิติ
  • ภาคตัดกรวย
  • ฟังก์ชันลอการิทึม
  • ลำดับและอนุกรม
  • และเรื่องอื่นๆ

วิธีแก้ไขคือเราต้องรู้ก่อนว่าที่เราเรียนคณิตศาสตร์ไม่เข้าใจนั้น เราขาดพื้นฐานเรื่องอะไรบ้างและรีบแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด หรือแม้กระทั่งบางทีเาก็เข้าใจเรื่องพื้นฐานต่างๆ ได้ดีแต่ก็ยังเรียนคณิตศาสตร์ในห้องเรียนไม่เข้าใจอยู่ดี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะเพราะบางครั้งในสิ่งที่เราเข้าใจอาจจะไม่เข้าใจจริงๆก็ได้ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่แปลก บางทีนักเรียนก็ สามารถทำโจทย์คณิตศาสตร์ได้ แต่เป็นการทำได้จากการจำ บางเรื่องจำสูตรได้ อ่านโจทย์และหาตัวแปรได้ แทนค่าตัวเลขในสูตรก็ทำโจทย์ (แบบพื้นๆ)ได้ ก็ต้องยอมรับว่าบางโรงเรียน หรือครูบางคนกลัวนักเรียนที่เป็นลูกศิษฐ์ของตัวเองทำข้อสอบไม่ได้ หรือกลัวว่าตัวเองจะถูกตำหนิที่นักเรียนของตัวเองทำคะแนนได้น้อย ก็เลยออกแบบทดสอบแบบพื้นๆ ซึ่งถ้าไม่ใช่นักเรียนที่อ่อนคณิตศาสตร์จริงๆก็สามารถทำได้ แต่โจทย์คณิตศาสตร์นั้นไม่ได้ทดสอบความเข้าใจของนักเรียนจริงๆ

โจทย์คณิตศาสตร์ ที่ออกแบบมาอย่างดีต้องทดสอบนักเรียนได้ว่าเป็นอย่างไร เช่น

  • ทดสอบความเข้าใจทฤษฎี(คำนวณ)
  • ทดสอบความจำ (สูตร)
  • ทดสอบการแก้โจทย์ปัญหา
  • และทดสอบการนำไปประยุกต์ใช้ได้

มาพูดถึงเรื่องว่าจะแก้ไขกันอย่างไรต่อดีกว่า ถ้าน้องๆคนไหนเเรียนคณิตศาสตร์ในห้องเรียนไม่เข้าใจ อย่างที่บอกว่าเราต้องรู้ก่อนว่าเป็นเพราะพื้นฐานเราไม่ดีในบางเรื่องหรือหลายเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกัน หรือเราอาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆจริง ขอย้ำอีกครั้งครับว่าการเรียนคณิตศาสตร์ที่เข้าใจจริงๆนั้น ต้องสามารถมองเห็นออกมาเป็นภาพได้ทุกเรื่อง ดังนั้นถ้าเรียนไม่เข้าใจจริงๆ ก็กลับไปทบทวนเรื่องพื้นฐานต่างๆให้เข้าใจจริงๆเสียก่อน ไม่ใช่แค่จำสูตรแทนค่าตัวแปรแล้วก็ถือว่าเข้าใจแล้ว 

การทบทวนเนื้อหานั้น จะใช้วิธีหาอ่านในเน็ตก็ได้ หรือจะไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน หรือจะให้เพื่อน พี่ ญาติหรือใครก็ได้ที่สามารถอธิบายให้เราเข้าใจและเห็นภาพได้ ถ้าไม่มีใครสามารถอธิบายได้ก็ไป เรียนพิเศษ ก็ได้ครับ หาคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด  ถ้าสามารถเรียนและสอบถามกับติวเตอร์ได้ทุกเรื่องจะดีมาก ( กรณีนี้ไม่แนะนำให้เรียนแบบ VDO หรือแบบ Self Learning นะครับ ) ซึ่งกรณีที่เราต้องการเรียนเพื่อปรับพื้นฐานนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการอธิบายให้ตรงจุดจริงๆครับ

คณิตศาสตร์ นั้นถ้าน้องๆตั้งใจเรียนจริงๆ ตรงไหนไม่รู้หรือไม่เข้าใจให้ถามทันที ต้องทำความเข้าใจทันที เพราะถ้าปล่อยเอาไว้นานๆจะยิ่งแก้ไขยาก และถ้าน้องๆทำความเข้าใจคณิตศาสตร์แบบสามาถมองเห็นเป็นภาพได้ รับรองว่าวิชาคณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากและน่ากลัวอีกต่อไป 



Total Rating ✔

9.2 stars – 2,789 reviews

More Reviews

แสดงความคิดเห็น

เรียนคณิตศาสตร์ในห้องเรียนไม่เข้าใจ ทำอย่างไรดี ?

บทความจาก TutorFerry