ห้องเรียนพิเศษระดับชั้นมัธยมต้น มีอะไรบ้าง ?
ห้องเรียนพิเศษ โดยหลักๆจะแบ่งเป็น 2 หลักสูตรคือ
- หลักสูตรห้องเรียนพิเศษ วิทย์ - คณิต
- หลักสูตรห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ
ซึ่งทั้ง 2 หลักสูตรนี้ยังแบ่งย่อยๆออกไปอีก และอาจจะตั้งชื่อหลักสูตรแตกต่างกันไปแล้วแต่ละโรงเรียน ซึ่งมีดังนี้
Gifted
เป็นห้องเรียนพิเศษ วิทย์ - คณิต และเป็นชื่อที่โรงเรียนส่วนใหญ่ใช้กัน หมายถึงห้องเรียนที่เน้นการเรียนวิทยาศษสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยจะมีเนื้อหาการเรียนที่เข้มข้น รวมถึงการเรียนในเนื้อหาที่เกินระดับชั้น (ที่ห้องเรียนปกติหรือห้องเรียนธรรมดาเรียนกัน) เช่นวิชาวิทยาศาสตร์นั้น จะแยกเนื้อหาออกเป็น วิชาฟิสิกส์ เคมีและชีวะวิทยา ซึ่งอาจจะมีเนื้อหาของระดับชั้น ม.ปลายรวมอยู่ด้วย และวิชาคณิตศาสตร์จะเน้นเนื้อหาที่เกินระดับชั้น และยากกว่าปกติ โดยชั่วโมงการเรียนของห้องเรียน Gifted นี้ จะมากกว่าห้องเรียนปกติด้วย
TEP
ห้องเรียน TEP หรือ Talent Education Program จริงๆแล้วก็คือห้องเรียน Gifted เพียงแต่เรียกชื่อแตกต่างออกไปสำหรับบางโรงเรียน และการเรียนก็เหมือนกันคือ เน้นไปที่การเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
GATE
ห้องเรียน GATE หรือ Gifted and Talent Education Program เหมือนกับ ห้องเรียน Gifted และ TEP แต่เรียกแตกต่างออกไป และอาจจะมีความเข้มข้นของเนื้อหาแตกต่างกันบ้าง ซึ่งโรงเรียนที่มีห้องเรียน GATE นี้คือ โรงเรียนสวนกุหลาบ นั่นเองSMA
ห้องเรียน SMA หรือ Science Math Ability เป็นหลักสูตรแบบเดียวกันกับ Gifted , TEP และ GATE ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นห้องเรียนที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เท่าที่เคยได้ยินมาส่วนใหญ่ที่ใช้หลักสูตรนี้จะอยู่ทางภาคใต้เช่น โรงเรียนในหาดใหญ่
SME
ห้องเรียน SME หรือ Science Math English ดูชื่อก็รู้เลยว่าการเรียนการสอนจะเน้น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และมีภาษาอังกฤษด้วย โดยจะเหมือนกับห้องเรียน Gifted หรือ SMA แต่จะเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วยEP
ห้องเรียน EP (English Program) เป็นห้องเรียนที่เน้นภาษาอังกฤษ คือการเรียนการสอนทุกวิชาจะเป็นภาษาอังกฤาเกือบทั้งหมด คล้ายๆกับการเรียนโรงเรียน Inter เพียงแต่รายวิชาไม่เหมือนกัน และจะมีบางวิชาที่เรียนเป็นภาษาไทย เช่น วิชาภาษาไทย ,วิชาพละ ,วิชานาฎศิลป์ รวมถึงวิชาสังคมบางบทที่ต้องเรียนในเรื่องของกฏหมาย (ตรงนี้อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน)MEP
ห้องเรียน MEP (Mini English Program) เป็นห้องเรียนที่เน้นการเรียนการสอนด้วยภาษาอังกฤษเหมือนกับห้องเรียน EP เพียงแต่ความเข้มข้นจะน้อยกว่า อาจจะมีหลายวิชาที่เรียนเป็นภาษาไทยIEP
ห้องเรียนIEP ในที่นี้คือ INTENSIVE ENGLISH PROGRAM ไม่ใช่ INDIVIDUALIZED EDUCATION PROGRAM คือห้องเรียนที่เน้นการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ และเรียนแบบ EP คือเรียนเกือบทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับการรวมกันของห้องเรียน Gifted กับ EP เข้าด้วยกัน เพียงแต่วิชา วิทย์ และคณิตนั้นเนื้อหาอาจไม่เข้มข้นเท่า ห้อง Giftedการเรียนห้องเรียนพิเศษที่กล่าวมานี้ อาจมีบางโรงเรียนเรียกแตกต่างกันไปอีก และเนื้อหาการเรียนรวมถึงชั่วโมงเรียนอาจมากน้อยแตกต่างกันไปบ้าง แต่ที่เหมือนกันแน่ๆเลยคือ ค่าธรรมเนียมการเรียนที่เรียกเก็บเพิ่ม โรงเรียนบางแห่งอาจเพิ่มหลักพัน บางแห่งอาจเป็นหลักหมื่นและบางโรงเรียนอาจถึงหลายหมื่นบาทเลยก็ได้
การสอบเข้าห้องเรียนพิเศษ
ทุกโรงเรียนจะมีการสอบคัดเลือกในวันเดียวกัน เพื่อป้องกันการสมัครสอบทุกโรงเรียนและอาจจะมีการสละสิทธิ์ที่นั่งเรียนมากมายเมื่อสอบได้ ดังนั้นน้องๆและผู้ปกครองควรเลือกโรงเรียนที่จะสอบให้ดี ซึ่งเดี๋ยวนี้ทุกโรงเรียนจะมีการให้ทดลองสอบก่อนที่เรียกว่า Pre Gifted Test มาให้ลองสอบกันดู (วันเวลาสอบของแต่ละโรงเรียนแตกต่างกัน) ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถคาดการณ์ผลการสอบได้ โดยการกำหนดวันสอบคัดเลือกเข้าเรียนห้องเรียนพิเศษ จะกำหนดสอบประมาณเดือนพฤศจิกายน หรือเดือนธันวาคม ซึ่งผู้ปกครองและนักเรียนที่ต้องการสมัครสอบคัดเลือกต้องติดตามข่าวการเปิดรับสมัครสอบให้ดีข้อสอบคัดเลือกเข้าห้องเรียนพิเศษ
แน่นอนว่าข้อสอบเข้าห้องเรียนพิเศษต้องยากกว่าเข้าห้องเรียนปกติอยู่แล้ว ถ้าเป็นห้องเรียนพิเศษ วิทย์ - คณิต ก็จะเน้น 2 วิชานี้ ถ้าเป็น English Program ก็จะเน้นภาษาอังกฤษ และที่สำคัญคือการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งบางโรงเรียนอาจมีการสอบสัมภาษณ์ผู้ปกครองด้วย และบางโรงเรียนอาจจะคัดกรองนักเรียนจากการสอบสัมภาษณ์โดยตัดนักเรียนที่สอบข้อเขียนผ่านออกเกินกว่าครึ่งก็เป็นได้นักเรียนและผู้ปกครองที่คิดว่าจะสอบเข้าห้องเรียนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรใดก็ตาม ก็คงจะต้องเตรียมตัววไว้แต่เนิ่นๆ เพราะว่าในปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงทีเดียว ถ้าเป็นห้องเรียนพิเศษ วิทย์ - คณิต นั้นเนื้อหาที่เรียนแต่เฉพาะในโรงเรียนคงไม่พอแน่ ลองดูข้อสอบเข้า ม.1 ห้องเรียนพิเศษของโรงเรียนแห่งหนึ่งดูเป็นตัวอย่าง (แบบไม่ยากมากเกินไป) กันครับ
คนที่ 2 ได้ 3000 ครับ
ตอบลบข้อ1. ตอบ 1,017
ตอบลบข้อ2. ตอบ คนที่สองได้ 3,000 บาท คนที่แรกได้ 2,000 บาท
1. 1,017
ตอบลบ2. 3,000