ก่อนจะก้าวสู่การเป็นติวเตอร์

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะก้าวสู่การเป็นติวเตอร์

เป็นครูสอนพิเศษไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเป็นครูสอนพิเศษที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก่อนจะมาเป็นครูสอนพิเศษลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า เรามีความรู้เรื่องอะไรที่จะสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ วิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณได้มั๊ย หรือจะเป็นภาษา หรือมีความสามารถทางศิลปะหรือดนตรีหรือไม่ หรือความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานหรือนำไปเป็นอาชีพได้ เช่นความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ,กราฟฟิกดีไซน์ หรือมีความสามารถในการทำของหวานหรืออาหาร หรืออาจไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ก็สามารถเป็นครูสอนพิเศษได้ เพราะการสอนพิเศษบางเรื่องหรือบางวิชาอาจสามารถฝึกฝนให้เกิดความชำนาญและเชี่ยวชาญก่อน หรือการสอนบางอย่างอาจมีเครื่องมือช่วยเช่น ตำราเรียนที่ให้ผู้เรียนใช้ในการเรียนรู้ หรือการสอนเด็กเล็กๆในบางเรื่องก็มีวัสดุอุปกรณ์เป็นตัวช่วยในการสอนอยู่แล้ว แต่การเป็นติวเตอร์ หรือครูสอนพิเศษไม่ว่าจะเป็นการสอนวิชาหรือเรื่องอะไรก็ตาม และไม่ว่าจะสอนนักเรียนในระดับไหนก็ตาม จำเป็นต้องมีคือทักษะในการถ่ายทอดความรู้ โดยการถ่ายทอดความรู้นั้นอาจทำได้หลายวิธี เช่น

1. การเล่าเรื่อง

การเล่าเรื่องหรือการอธิบายให้ฟัง เป็นวิธีการสอนแบบพื้นฐานที่คุณครูทุกท่านจำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นวิชาหรือเรื่องอะไรก็ตาม เพราะการอธิบายให้นักเรียนฟัง เป็นขั้นตอนแรกของการสอน นักเรียนจำเป็นต้องรู้ข้อมูลบางอย่างเป็นเบื้องต้น แต่ในที่นี้ที่ใช้คำว่า "การเล่าเรื่อง" เพราะว่าติวเตอร์จำเป็นต้องมีเทคนิคการอธิบายที่น่าสนใจ การจะดึงสมาธิของนักเรียนให้ตั้งใจฟังการสอนของคุณครู ไม่ใช่แค่อธิบายในเนื้อหาที่สอนเท่านั้น แต่ต้องผูกเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจให้นักเรียนตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ ซึ่งติวเตอร์แต่ละท่านอาจมีเทคนิคการเล่าเรื่องแตกต่างกันไป ติวเตอร์ต้องฝึกเรื่องนี้ให้ดีจึงจะสามารถเป็นติวเตอร์ที่นักเรียนชอบได้

2. การทำให้ดู

การทำให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นสิ่งจำเป็นมาก และไม่ว่าจะเป็นการสอนวิชาอะไรก็จำเป็นต้องทำให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่างทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ก็ต้องทำโจทย์รูปแบบต่างๆให้นักเรียนดู วิชาเกี่ยวกับภาษาก็ต้องพูดให้นักเรียนฟัง หรือการเรียนดนตรี ก็ต้องเล่นให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่างเสียก่อน

3. การถามให้คิด

บางครั้งนักเรียนอาจจะมีทักษะในการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน นักเรียนหลายๆคนมักมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง บางคนอาจไม่เชื่อในสิ่งที่ครูพูด ดังนั้นการใช้วิธีตั้งคำถามให้นักเรียนคิดหาคำตอบหรือหาคำอธิบายเอง จะเป็นสิ่งที่ทำให้นักเรียนคิดและจำได้แม่นยำมากกว่าการฟังหรือดูอย่างเดียว

4. การให้ฝึกทำ

แน่นอนที่สุดว่า การเรียนจะได้ผลดี นักเรียนต้องลงมือปฏิบัติเอง และการเรียนรู้ทุกวิชาก็จำเป็นต้องฝึกทำมากๆ ยิ่งฝึกทำมากนักเรียนจะยิ่งมีความเชี่ยวชาญ

สมัครสอนพิเศษที่บ้านกับเรา